แชร์โพสนี้

ในปี 2559 ที่ผ่านมา มีเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอส และมีหลายประเทศในแถบยุโรปที่ตกเป็นเป้าสำคัญในการก่อเหตุ
 
เริ่มจากเบลเยียมในเช้าวันที่ 22 มีนาคม มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มจากเหตุระเบิดสองครั้งที่นานาชาติซาเวนเทม ในกรุงบรัสเซลส์ และอีกหนึ่งครั้งที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค ใกล้กับสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป หรือ อียู จากทั้งสองเหตุการณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 300 คน โดยเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้นับเป็นการก่อการร้ายที่ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์เบลเยียม และเป็นเหตุให้รัฐบาลเบลเยียมประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศสามวัน
 
สำหรับฝรั่งเศส ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายไอเอสมาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ก็ได้กลายเป็นเป้าโจมตีอีกครั้ง กับเหตุโจมตีในงานฉลองวันชาติฝรั่งเศส หรือวัน บาสติลล์ ที่เมืองนีซ เมืองพักตากอากาศยอดนิยมทางตอนใต้ของประเทศ  โดยผู้ก่อเหตุใช้รถบรรทุกหนัก 20 ตันขับเข้ามายังถนนเลียบชายหาด พรมเมอนาด เด ซองกเล พุ่งเข้าใส่ฝูงชน ที่มาร่วมฉลองวันชาติ เป็นเหตุทำให้ผู้เสียชีวิตไป 84 คน บาดเจ็บอีก 202 คน ทำให้ประธานาธิบดีฟรองซัว ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้าย และประกาศขยายภาวะฉุกเฉินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
 
ข้ามไปสหรัฐอเมริกา กับเหตุสะเทือนขวัญยิงถล่มบาร์เกย์ เมื่อมีชายชาวอเมริกัน.เชื้อสายอัฟกานิสถานวัย 30 ปี ใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงใส่กลุ่มนักเที่ยว ในบาร์ชื่อ พัลส์ ไนท์ คลับ ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ขณะที่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเนืองแน่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 53 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นการสังหารหมู่ ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา