แชร์โพสนี้
มาทำความรู้จัก Blind Trust ว่าคืออะไร ทำไมถึงเป็นอีกหนึ่งมาตรฐาน ในการป้องกันนักการเมืองหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง
กลายเป็นที่ฮือฮาทั่วสังคมและวงการธุรกิจไม่น้อยทีเดียว เมื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศโอนหุ้นในธุรกิจที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองมูลค่า 5,000 ล้านบาทไปให้กองทุนส่วนบุคคลบริหารจัดการแทน
Blind Trust ถือเป็นกองทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่มีขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหา “การขัดกันของผลประโยชน์” (conflict of interest) ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อนักธุรกิจหันมาเล่นการเมือง โดยผู้ดูแลกองทุนจะทำหน้าที่บริหารทรัพย์สินดังกล่าวในระหว่างที่เจ้าของทรัพย์สินอยู่ในตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งตลอดช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าของทรัพย์สินจะไม่ทราบเลยว่าทรัพย์สินของตนถูกนำไปบริหารจัดการอย่างไร เป็นการเพิ่มความโปร่งใส และลดข้อครหาว่าผู้มีตำแหน่งทางการเมืองออกนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทรัพย์สินจะถูกนำไปไว้ในกองทุน (Trust) ซึ่งมีผู้ดูแลกองทุนมืออาชีพเป็นผู้ดูแล หลังจากนั้นเมื่อนักการเมืองคนดังกล่าวเข้าไปทำหน้าที่ในสภาหรือมีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินดังกล่าว โดยที่เจ้าของทรัพย์สินซึ่งมีตำแหน่งทางการเมืองแล้ว จะไม่ทราบว่าทรัพย์สินดังกล่าวถูกบริหารจัดการอย่างไร (Blind) ด้วยเหตุนี้กองทุนจึงถูกเรียกว่า Blind Trust นั่นเพราะว่าเจ้าของเงินไม่รู้และไม่มีสิทธิ์จัดการทรัพย์สินของตัวเองแล้วนั่นเอง
เมื่อไม่ทราบว่าทรัพย์สินถูกบริหารจัดการอย่างไร เช่นไม่รู้ว่าเงินของตนถูกนำไปซื้อหุ้นตัวไหน เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาหรือเธอก็ไม่สามารถออกนโยบายที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับหุ้นในกระเป๋าของตัวเองได้ ถือเป็นการเพิ่มความโปร่งใสของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง ผู้จัดการกองทุนก็จะส่งมอบทรัพย์สินใน Blind Trust กลับให้เจ้าของ ซึ่งอาจจะงอกเงยขึ้นกว่าเดิมหรืออาจจะขาดทุนก็ได้
ในกรณีของประเทศไทย แม้ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องโอนทรัพย์สินไปให้กองทุนในลักษณะนี้บริหาร แต่การเดินตามแนวทางเช่นนี้ก็น่าจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและธรรมาภิบาลให้กับวงการการเมืองไทยได้
ขอบคุณข้อมูล wikipedia