แชร์โพสนี้
รัสเซียแถลงปฏิเสธอย่างเป็นทางการ หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่ารัสเซียเจาะล้วงข้อมูลทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลต่อผลคะแนนการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด
หลังจากที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลหลักฐานที่ชี้ว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้สั่งการให้มีการเจาะล้วงข้อมูลของพรรคเดโมแครต เพื่อดิสเครดิตนางฮิลลารี คลินตัน ช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ล่าสุด นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ได้แถลงตอบโต้คำกล่าวอ้างข้างต้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยระบุว่า รัสเซียปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในเรื่องของการแฮกข้อมูล และชี้ว่ารายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ นั้นเป็นการกล่าวหาลอย ๆ ไม่น่าเชื่อถือ โดยไม่รู้ว่าผู้จัดทำใช้ข้อมูลอะไรเป็นหลักฐานในการเขียนรายงาน อีกทั้งยังเป็นการกล่าวหาที่ทำให้รัฐบาลรัสเซียรู้สึกเบื่อหน่าย และเอือมระอาต่อรัฐบาลสหรัฐฯ
ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้สัมภาษณ์รายการ “This Week” ทางช่องเอบีซีนิวส์ และกล่าวถึงการเผยแพร่รายงานของสำนักข่าวกรองสหรัฐฯ ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่า ก่อนหน้านี้ให้ความสำคัญกับผลกระทบจากการเจาะล้วงข้อมูลทางไซเบอร์น้อยเกินไป โดยไม่ทันระวังว่าปัจจุบันเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะมีการแฮกข้อมูลและปล่อยข้อมูลเท็จ หรือสร้างข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริงออกมาเผยแพร่ในสังคม กลายเป็นการชวนเชื่อต่อชาวอเมริกัน
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เคยคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ว่า ควรไว้วางใจต่อหน่วยข่าวกรองอย่างที่เขาเชื่อ เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากบางครั้งข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองอาจเป็นเพียงอย่างเดียวที่ช่วยตัดสินใจในการทำงาน
มีรายงานข่าวระบุว่า หลังนายทรัมป์ได้รับรายงานข้างต้น เขากล่าวชื่นชมการทำงานของหน่วยข่าวกรอง แต่เชื่อว่าการเจาะล้วงข้อมูลที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อผลการเลือกตั้ง