แชร์โพสนี้
เกิดเหตุมือมีดบุกก่อเหตุในที่สาธารณะอีกครั้ง โดยคนร้ายชาย ได้บุกเข้าไปแทงผู้คนโดยไม่เลือกหน้า ที่จัตุรัสรัสเซล ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีหญิงสูงอายุ สัญชาติอเมริกัน วัย 60 ปี เสียชีวิต 1 ราย และอีก 5 รายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตามรายงานระบุว่า มีทั้งชาวอเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย และอิสราเอล ส่วนคนร้ายนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนไฟฟ้ายิงสกัดไว้ และควบคุมตัวได้ ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุพอดี
รายงานจากการสอบสวนล่าสุดพบว่า ผู้ก่อเหตุคนนี้เป็นชายวัยรุ่นอายุ 19 ปี ถือสัญชาตินอร์วีเจี้ยน และมีอาการทางจิต โดยเลือกก่อเหตุไล่แทงเหยื่อโดยสุ่ม หรือแบบไม่เฉพาะเจาะจง ส่วนการสอบสวนถึงความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐานที่ระบุว่า มีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใด และจากการตรวจค้นที่พัก และสอบถามญาติ ยังไม่พบสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่า เขามีความคิดฝักใฝ่ ในเรื่องการใช้ความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เหตุการครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน ได้สั่งให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ประจำการตามจุดต่างๆ ทั่วกรุง โดยเฉพาะจุดสำคัญ ที่มีความเสี่ยง รวมถึงจัตุรัสรัสเซล ที่คนร้ายบุกก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย โดยคำสั่งนี้มีขึ้น หลังเเนวโน้มการก่อการร้ายในยุโรปสูงขึ้น อย่างน่ากังวล นี่จึงอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ช่วยให้การก่อเหตุไล่เเทงเหยื่อครั้งนี้ ไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ เพราะหลังได้รับเเจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ก็สามารถบุกเข้าจับตัวผู้ก่อเหตุได้ภายในเวลา 10 นาที
ขณะที่เเนวโน้มการก่อการร้ายในแถบยุโรป ที่ทวีจำนวนมากขึ้น นักวิเคราะห์มองว่า เป็นสัญญาณที่กำลังบ่งบอก ถึงการขยายวงกว้างของพื้นที่การก่อเหตุ จากเเต่ก่อนที่เกิดขึ้นแต่ในประเทศที่มีสงครามกลางเมือง อย่าง อิรัก ซีเรีย
แต่ปัจจุบัน ได้เริ่มหันมาก่อเหตุในประเทศที่มีความสงบมากขึ้น และรูปแบบของการก่อเหตุ ก็เริ่มแปลกไปจากเดิม จนคาดการณ์ได้ยาก เช่น เหตุคนร้ายขับเหตุขับรถชนประชาชนที่มาร่วมเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส ที่เมืองนีซ ทำให้ที่สาธารณะต่างๆ ในประเทศ กลายเป็นสถานที่อันตราย สำหรับประชาชน
นอกจากนี้ไม่เพียงมีแต่คนร้าย ที่มาจากนักรบของกองกำลังต่างๆ เท่านั้น ปัจจุบันยังมีคนร้ายที่แฝงตัวมาในอีกหลายกลุ่ม เช่น ผู้อพยพ รวมถึงคนที่ก่อเหตุุ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มก่อการร้ายด้วย ด้านภาวะความเครียด จากการใช้ชีวิตในสังคม ก็เป็นอีกแรงกระตุ้น ให้เกิดการทำร้ายผู้อื่นได้ อย่างเช่น ข่าววัยรุ่นบุกแทงคนที่จัตุรัสรัสเซล ที่รายการนำเสนอในวันนี้
นับเป็นภัยคุกคามที่นานาประเทศ ต้องหันมาให้ร่วมในการต่อต้านอย่างแข็งขัน ก่อนที่สถิติการก่อการร้ายจะมากขึ้น และขยายวงกว้างจนควบคุมไม่ได้