แชร์โพสนี้
-เจ้าหน้าดับเพลิงแคลิฟอร์เนียเร่งดับป่าที่ยังคงลุกลามอย่าหนัก บริเวณเนินเขาในเมืองซานเบอร์ นาดิโน ซึ่งเสียหายไปแล้วกว่า 500 ไร่ ซึ่งต้องสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ตามรายงานระบุว่า กระแสลมแรงนับเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเจ้าหน้าที่ เพราะทำให้ไฟลุกโหมเข้าไปอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ ไฟไหม้ลามทำลามพื้นที่ป่าทั่วรัฐรวมแล้วกว่า 190,000 ไร่
-สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา มีมติ 332 ต่อ 196 เสียง เห็นชอบให้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง จากข้อกล่าวหาที่ทรัมป์กดดันให้ประธานาธิบดียูเครน แบ่งปันข้อมูลของ โจ ไบเดน และลูกชาย ซึ่งในจำนวนผู้ที่โหวตนอกจาก ส.ส. จากฝั่งรีพับลิกัน ยังมี ส.ส. จากพรรคเดโมแครตร่วมด้วยอีก 2 รายในขณะที่ทรัมป์นั้นออกมาตอบโต้ด้วยการทวิตข้อความระบุว่า เป็นการล่าแม่มดที่ใหญ่ที่สุดในประวิติศาสตร์สหรัฐ
-ผู้ชุมนุมชาวอิรักจำนวนมากยังคงปักหลักต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ในกรุงแบกแดด จากปัญหาเศรษฐกิจ โดยผู้ชุมนุมเริ่มเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล หลังจากที่เมื่อวันพุธเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อสกัดกั้นเข้าไปยังพื้นที่กรีนโซน และมีกระป๋องแก๊สน้ำตาตกใส่ศีรษะของผู้สองรายจนเป็นเหตุให้ทั้งคู่เสียชีวิต ประชุมนุมประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003
-รองรัฐมนตรีค่างประเทศรัสเซียเผยสถานการณ์ความแย้งในพื้นที่ตะวันออกของยูเครนกำลังเปลี่ยนไป หลังจากการหารือของประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กับ เลขาธิการ OSCE โดยระบุว่ากองทัพของรัฐบาลยูเครนและกองกำลังที่รัสเซียให้การหนุนหลังเริ่มถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้ว ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งมาตการยุติความขัดแย้งที่มีมายาวนานและมีผู้เสียชีวิต 13,000 คน
-กลุ่มนักศึกษาที่สนับสนุนการแบ่งแยกแคว้นคาตาลันออกมาตั้งแคมป์รวมตัวบนท้องถนนในเมืองบาเซโลนาของสเปน เพื่อประท้วงและเรียกร้องอิสรภาพจากรัฐบาลกลางรอบนี้ปักหลักกันตั้งแต่วันพุธ นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งเดินขนบวนไปยังสำนักงานใหญ่ของรัฐบาท้องถิ่นด้วยหลังจากที่นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการเจรจากับผู้นำแคว้นคาตาลัน
-ฮ่องกงยังมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลอย่างต่อเนื่องที่บริเวณถนนนาธานซึ่งเป็นถนนสายหลักในด้านเกาลูน ตำรวนทำการเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำพร้อมสวมหน้ากากแฟนซีเดินหน้าตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ฮ่องกงกำลังเผชิญกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจไตรมาศที่ 3 ของปีนี้จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น