แชร์โพสนี้
อังกฤษเริ่มสอบสวนครั้งใหญ่ หลังพบผู้เสียชีวิต 39 รายในตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็งเมื่อวานนี้ ขณะที่เบลเยี่ยมและไอร์แลนด์เหนือเข้าร่วมการสอบสวนด้วย เนื่องจากเชื่อว่า จะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ
เจ้าหน้าที่อังกฤษเริ่มตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเพื่อระบุสัญชาติเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 39 ราย หลังจากที่เคลื่อนย้ายรถคอนเทนเนอร์จากนิคมอุตสาหกรรมเมืองเกรย์ส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันออก 32 กิโลเมตรที่เป็นจุดที่พบศพ ไปยังท่าเรือทิวบิลลี่ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิต
ตำรวจยังได้ตรวจสอบเส้นทางรถบรรทุกคันดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่า เดินทางโดยข้ามเรือเฟอร์รี่จากเมืองเซ-บรึค-เคอ ประเทศเบลเยี่ยม มายังอังกฤษทางเมืองเพอร์ฟลีท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ถึง 12 ชั่วโมง รายงานระบุว่า รถตู้คอนเทนเนอร์มาถึงที่เมืองเพอร์ฟลีทเมื่อเวลาเที่ยงคืน 30 นาทีวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นก็แล่นมายังนิคมอุตสาหกรรมเมืองเกรย์ส เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลโทรแจ้งตำรวจว่า พบศพในรถดังกล่าวเมื่อเวลา 1 นาฬิกา 40 นาที -ส่วนคนขับรถวัย 25 ปี ซึ่งมาจากไอร์แลนด์เหนือ ถูกควบคุมตัวและสอบปากคำ
โดยตอนนี้ตำรวจระบุว่า เป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม-หลายฝ่ายเชื่อว่า เหตุดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์ โดยตอนนี้ทั้งเบลเยี่ยมและไอร์แลนด์เหนือก็เริ่มสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโศนาฏกรรมที่สร้างความสะเทือนใจอย่างรุนแรง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายท้ง 39 รายนี้ต้องถูกดำเนินคดี อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้อพยพจำนวนมากพยายามลักลอบเข้ามาทั้งมากับตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุก ทั้งนี้เมื่อปี 2000 เคยเกิดโศกนาฏรรมเช่นนี้มาแล้วที่เมืองท่าโดเวอร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ โดยได้พบศพผู้อพยพชาวจีน 58 ราย ลักลอบเข้ามากับรถบรรทุกของเนเธอร์แลนด์ มีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน
และเมื่อปี 2015 ช่วงที่ยุโรปเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพ ก็พบศพผู้อพยพ 71 ราย นอนตายแออัดรวมกันในรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มาจากพรมแดนฮังการี่ ในจำนวนนี้มีเด็กทารกด้วย 1 คน และรถถูกทิ้งไว้บนถนนที่ออสเตรีย