แชร์โพสนี้

รัฐบาลอิตาลีประกาศ”สถานการณ์ฉุกเฉิน”หลังเกิดเหตุสะพานมอเตอร์เวย์ ในเมืองเจนัวถล่ม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลอิตาลีให้คำมั่นจะดำเนินการกับบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้าง ทำให้นักลงทุนอื่นๆ ต่างหลีกเลี่ยงการดำเนินการก่อสร้างถนน หรือ สะพาน ภายในประเทศ

กลายเป็นความสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในรอบ 17 ปี ของอิตาลี จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุสะพาน”โมรันดี”ในเมือง เจนัว ถล่มลงมา เป็นระยะทางยาวกว่า 2 ร้อยเมตร ส่งผลให้รถยนต์ และ รถบรรทุกหลายสิบคัน ร่วงลงมาจากสะพาน ที่มีความสูง 45 เมตร ทับบนรางรถไฟที่อยู่ข้างล่าง 

ล่าสุดสำนักงานป้องกันภัยพลเรือน ประเมินว่า จำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มเป็น 39 ราย และ บาดเจ็บอีกกว่า 15 คน

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัย นักดับเพลิง ยังคงระดมกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ที่อาจติดอยู่ใต้ซากสะพานตลอดทั้งวัน รวมถึง มีคำสั่งให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื่นที่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวทั้งหมด ย้ายออกอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เนื่องจาก เกรงว่าชิ้นส่วนของสะพาน อาจชำรุดเพิ่มเติมได้

เหยื่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์รายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก เล่าว่า เขาตกลงมาพร้อมกับรถบรรทุกของเขา แต่โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่หัวไหล่ และ สะโพกเท่านั้น

ส่วนอีกรายติดอยู่ในซากสะพาน ที่ไม่ขอเปิดเผยใบหน้านั้น เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้คนต่างกรีดร้อง และ วิ่งหนีกันอย่างชุลมุน แต่โชคดีที่ยังมีสติ จนสามารถร้องเรียกขอความช่วยเหลือ จนนักดับเพลิงเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน  

การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต้ (Giuseppe Conte) ของอิตาลี และคณะรัฐบาล ลงความเห็น จัดสรรงบประมาณก้อนแรก จำนวน 5 ล้านยูโร หรือประมาณ 188 ล้านบาท สนับสนุนให้กับกองทุนฉุกเฉินแห่งชาติ รวมถึง ประกาศภาวะฉุกเฉิน ในเมืองเจนัว เป็นเวลา 12 เดือน 

ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ มักนำมาใช้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง หรือ ภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งหมายถึง การเพิ่มอำนาจในการตัดสินใจ กระทำการต่างๆ ตามมาตรการพิเศษ ที่กำหนดขึ้นอย่างเร่งด่วน ให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ ทหาร ในทันที ซึ่งในกรณีนี้ เพื่อต้องการช่วยให้ทางการ สามารถเร่งดำเนินการสอบสวน สาเหตุของการที่สะพานถล่ม และ ดูแลความสงบเรียบร้อยของเมือง ได้อย่างเต็มที่ 

เหตุการณ์นี้ สร้างความไม่พอใจ และ เกิดกระแสวิพากษ์-วิจารณ์ไปทั่วประเทศ ถึงบริษัท ออโตสเตรด แปร์ ลิตาเลีย (Autostrade per l’Italia) ผู้ดูแลและซ่อมบำรุงรักษาสะพานแห่งนี้ เรียกเก็บค่าผ่านทางที่สูงที่สุดในยุโรป แต่กลับไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ ที่สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ได้ 

ส่งผลให้ทางการอิตาลี มีแผนที่จะเพิกอนสัญญาของบริษัทนี้ และ ปรับเงินเป็นจำนวน 150 ล้านยูโร หรือประมาณ 5,600 ล้านบาท เนื่องจาก เห็นว่า บริษัทดังกล่าว เพิกเฉยต่อหนาที่การดูแล และ ซ่อมบำรุงสะพาน ที่ตนรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ถึงสาเหตุที่ทำให้สะพานมอเตอร์เวย์ โมรันดี ถล่มลงมา แต่ทางนาย มัตเตโอ ซัลวินี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิตาลี ได้ออกแถลงถึงสาเหตุ ที่ทำให้อิตาลีไม่สามารถสร้างถนน หรือ โรงเรียน ที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้ เนื่องจาก เงินทุนที่อิตาลีได้รับจากสหภาพยุโรป (EU) นั้น ไม่ครอบคลุมหัวข้อการปรับปรุงดังกล่าว

ซึ่งคณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรป ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า ได้จัดสรรงบประมาณ ช่วงปี 2557-2563 ให้แก่อิตาลี ราว 2,500 ล้านยูโร เพื่อให้ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างขั้นพื้นฐานของประเทศ รวมถึง การดูแลและปรับปรุงเส้นทางคมนาคม เช่น ถนน และ รางรถไฟ อยู่แล้ว ดังนั้น ทางการอิตาลี ไม่ควรที่จะกล่าวโทษว่า สหภาพยุโรป ไม่ให้การช่วยเหลือ หรือ งบประมาณไม่เพียงพอ แต่อย่างใด

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต้ ประกาศว่า จะมีการจัดพิธีไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ เป็นเวลา 1 วัน แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่แน่ชัด 

โลกยามเช้า

ต้อนรับอรุณรุ่งของวันใหม่ กับ โลกยามเช้า และโลกยามเช้าสุดสัปดาห์ อัพเดทข่าวสารจากต่างประเทศก่อนใคร และสาระความรู้ ความบันเทิง จากทั่วทุกมุมโลก

  • วันออกอากาศ  จ-ศ เวลา 04.00 – 04.25น.
  • วันออกอากาศ  ส-อา เวลา 05.10-05.35น.
  • ช่อง 3HD ช่อง 33