แชร์โพสนี้
เหตุรถบรรทุกน้ำมันระเบิดที่ปากีสถาน ล่าสุดมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 148 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ การรักษาการเเพทย์ในพื้นที่ห่างไกล อาจไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
หลังมีรายงานอุบัติเหตุ รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำ เนื่องจากหักหลบเปลี่ยนทิศทางอย่างกระทันหันบนทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองการาจี และเมืองละฮอร์ ในรัฐปัญจาบ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ชานเมืองบาฮาวัลปูร์ (Bahawalpur) ทางตอนกลางของปากีสถาน ทำให้รถประสบอุบัติเหตุเกิดระเบิดขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
โฆษกรัฐบาล ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ กลุ่มชาวบ้านที่พยายามเข้าไปรองเอาน้ำมันที่รั่วไหลออกมา ทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมหมู่ขึ้น โดยผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ ถูกไฟคลอกจากการระเบิดของน้ำมันเผาไหม้อย่างรุนแรง
ขณะที่ โฆษกฝ่ายบริหารการกู้ภัย เผยถึงรายงานเบื้องต้นที่ระบุว่า มีผู้จุดไฟสูบบุหรี่ในบริเวณใกล้เคียง กับจุดที่น้ำมันรั่วไหลด้วย ส่วนด้านผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า แรงระเบิดยังทำให้ยานพาหนะที่อยู่ใกล้เคียง ได้รับความเสียหายตามไปด้วย ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่า เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ยิ่งซ้ำร้ายให้เพลิงโหมลุกไหม้รุนแรงยิ่งขึ้นหรือไม่
สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ ล่าสุดสำนักข่าว Independent รวมถึงสำนักข่าวอื่นๆ รายงานโดยอ้างจากคำพูด ของหน่วยงานกู้ภัยในท้องถิ่นว่า อยู่ที่อย่างน้อย 148 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 140 ราย โดยในจำนวนนี้ มีผู้ที่ยังคงมีอาการวิกฤต ถึง 40 ราย ส่วนคนขับรถบรรทุกน้ำมันไม่ได้รับอันตรายจากเหตุครั้งนี้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
สำนักข่าวอัล จาซีราห์อัล จาซีราห์ ยังรายงานแง่มุมวิเคระห์จากผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นนับเป็นโศกนาฏกรรมของชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ ซึ่งมีกว่าร้อยละ 65 ที่จัดอยู่ในกลุ่มของผู้ยากจน และขาดเเคลน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวบ้านต่างรีบร้อนออกมาตักตวงน้ำมัน หลังได้รับการเเจ้งข่าวจากวิทยุเสียงตามสาย โดยไม่ตระหนักถึงความปลอดภัยในสถานการณ์ตรงหน้า พร้อมกันนี้ รายงานข่าวยังชี้ด้วยว่า ความไม่พร้อมทางการแพทย์ในชุมชน อาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอีก
ด้านนาย Nawaz Sharif (นาวาซ ชารีฟ) นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ที่อยู่ระหว่างเดินทางเยือนกรุงลอนดอนของอังกฤษ เป็นการส่วนตัว ได้เดินทางกลับปากีสถานเป็นการด่วน โดยออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้บุคลากรด้านการแพทย์ และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการให้บริการผู้บาดเจ็บ โดยให้กระจายคนไข้ไปตามสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต