แชร์โพสนี้
การประชุมอาเซียนที่จัดขึ้นที่กรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น บรรดาผู้นำจากประเทศต่าง ๆ ได้มีการพยายามหารือ และ หาบทสรุปให้กับข้อตกลงการค้าเสรี รูปแบบต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นข้อตกลงที่วางแผนจะดำเนินการให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงข้อตกลงการค้า กับประเทศนอกภูมิภาค อย่าง ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค หรือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership : อาร์เซ็ป) โดยข้อตกลงนี้ มีนาย ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เป็นผู้นำการผลักดัน
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียน กับคู่ค้า 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยเพิ่มบทบาทการเจรจาทางเศรษฐกิจร่วมกัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประชาชนของแต่ละฝ่าย
และนอกจาก ความตกลง RCEP แล้ว อาเซียนยังกำลังพยายามศึกษา หาความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลงการค้าเสรี กับ สหภาพเศรษฐกิจ ยูเรเซีย หรือ EEU (Eurasian Economic Union) ที่ปัจจุบันประกอบไปด้วย สมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย คาซัคสถาน เบลารุส คีร์กีซสถาน และ อาร์เมเนีย
โดยตัวเเทนจากฝั่งสิงคโปร์ เผยข้อมูลว่า จากสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่อ้างอิงจากสิงคโปร์เอง อนุมานได้ว่า อาเซียนยังคงเป็นภูมิภาค ที่อยู่ในกระเเสนิยมของการลงทุนจากนานาชาติ อีกทั้ง กระเเสเรื่องการป้องกันความปลอดภัย ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว ทำให้อาเซียนถูกมองว่า ยังคงเป็นที่น่าจับตามอง เพราะยังมีความสงบมากกว่าภูมิภาคอื่น แม้ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ที่กำลังท้าทายความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับคู่ค้าหลายประเทศ ในภูมิภาคดังกล่าวก็ตาม