แชร์โพสนี้
เที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับลีลามี วันนี้พาผู้ชมนั่งเครื่องบินจากเมืองไทยมุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่น วันนี้จะพาทุกท่านไปสถานที่ไหนกันบ้างไปติดตามกันได้เลยครับ
สถานที่แรกในวันนี้ เรามากันที่เมืองนาริตะ เพื่อมาชม Ashikaga Flower Park หรือ สวนดอกไม้อาชิคางะ สถานที่ท่องเที่ยวที่ CNN สำนักข่าวชื่อดังเคยรายงานไว้เมื่อปี 2014 ว่าเป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวของโลกที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต


สวนดอกไม้อาชิคางะ อยู่ใน จังหวัดโทชิงิ นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางไปชมดอกไม้ที่นี่โดยเฉพาะ ไฮไลท์สวนดอกไม้แห่งนี้อยู่ที่ ต้นดอกฟูจิวิสทีเรีย ซึ่มีทั้งหมด 4 สี ประกอบด้วย สีชมพู สีม่วง สีขาว และ สีเหลือง ที่จะบานสะพรั่งสวยงามในช่วงกลางเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคมของทุกๆปี วิสทีเรียเป็นพันธุ์ไม้เลื้อยมีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยไปทั่วสวน ต้นที่ใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี ออกดอกห้อยตกลงมาเป็นระย้าราวกับน้ำตกสีม่วง กระจายอาณาเขตวงกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร
สวนดอกไม้แห่งนี้ นอกจากจะเปิดให้เข้าชมพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดแล้ว ที่นี่ยังมีบริการจำหน่ายพันธุ์ไม้ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายชนิด ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือเอาไปปลูกต่อที่บ้านได้อีกด้วยครับ
พูดถึงวิสเทเรียไปมากพอสมควรแล้ว ยังมีพันธุ์ไม้อีกต้นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ อาซาเลียหรือที่เราเรียกกันว่า ต้นกุหลาบพันปี ที่จะบานในช่วงเวลาเดียวกันกับวิสทีเรีย มีกว่า 5,000 ต้น และมีสีสันที่สวยงามฉูดฉาดสุดลูกหูลูกตา มีทั้ง สีชมพู สีแดงสด สีขาว กระจายเต็มไปหมด

หลังจากที่เดินชมความงามของสวนดอกไม้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะพาไปรับประทานอาหารกลางวันกัน โดยไปทานกันที่ภัตตาคารในสวนดอกไม้อาชิคากะนี่แหละ เมนูในมื้อนี้ขอเสนอ หมี่เย็นโซบะผสมกับลูกชิ้นทอด กุ้งเทมปุระ กับ ข้าวหน้าปลาหมึก ใส่กับเนื้อแซลมอนกับไข่ปลาคาเวียร์ บอกเลยว่าน่ากินมากๆ กินของคราวกันจนอิ่มท้องเราก็จะตบท้ายกันด้วยของหวาน ที่พลาดไม่ได้เลยถ้ามาที่นี่ คือไอศรีมรสวิสทีเรีย ที่มีกลิ่นที่หอมเหมือนดอกวิสทีเรียเป๊ะ หอมหวานและอร่อยมากๆกันเลยล่ะครับ




ออกจากสวนดอกไม้ สถานที่ต่อไปที่เราจะพาไปนั้น อยู่ที่เมืองอิบารากิ เราจะพาไปที่โรงเรียนฝึกซูโม่ ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นกันครับ ที่นี่บอกเลยว่าเขาฝึกตั้งแต่คนที่มีสรีระที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ พัฒนาไปเรื่อยๆจนสมส่วนพอที่จะเล่นกีฬาชนิดนี้ ซึ่งคนที่จะสามารถเล่นกีฬาซูโม่ได้ อันดับแรกต้องมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 75 กิโลกรัม กติกาการแข่งขัน คู่ปล้ำทั้ง 2 ฝ่ายต้องพยายามทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม หรือทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนอกเหนือจากฝ่าเท้าแตะกับพื้น หรือดันคู่ต่อสู้ให้ออกจากวงกลมขนาดเล็ก การต่อสู้ใช้เวลาไม่นานและเริ่มต้นด้วยพิธีกรรมซึ่งรวมถึงการโปรยเกลือบนพื้นในกรอบวงกลม เป็นเครื่องหมายของความบริสุทธิ์ เนื่องจากซูโม่เป็นกีฬาที่มีเกียรติ ผู้ที่ก้าวไปถึงตำแหน่ง “โยโกสุนะ” ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ถือว่าเป็นผู้พิชิตอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฤดูกาลแข่งขันซูโม่ของนักซูโม่อาชีพ จะเปิดการแข่งขันปีละ 6 ครั้ง ในเดือนคี่ คือ มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน โดยแต่ละครั้งใช้เวลานาน 15 วัน
ครูฝึกซูโม่ได้พูดคุยกับพวกเราว่า ในญี่ปุ่นมี โรงเรียนฝึกสอนซูโม่ทั้งหมดโดยรวมแล้วประมาณ 42-43 แห่ง การเรียนซูโม่นั้นเด็กบางคนใช้เวลาฝึกกว่า 20 ปี กว่าจะได้ไปเป็นนักซูโม่อาชีพ สำหรับเคล็ดลับการกินของนักซูโม่นั้นเนื่องจากกีฬาชนิดนี้ ใช้พลังงานของร่างกายค่อนข้างมาก ฉะนั้น อาหารถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างร่างกายให้แข็งแรง นักซูโม่จะกิน Chankonabe โดยการใส่เนื้อหมู ปลา ผักและทานข้าวที่เป็นคาร์โบไฮเดรตให้มีบาลานซ์ที่ดี กินโปรตีนให้เยอะเพราะต้องใช้พลังงานสูงสำหรับการฝึกซ้อม บอกเลยครับว่าการฝึกซ้อมของที่นี่จริงจังมาก ไม่การแบบว่ามาเรียนขำๆ วิธีการซ้อมนั้นจะเริ่มต้นจากการดันเสา ยกท่อนคล้ายท่อน้ำที่มีขนาดใหญ่ทุ่ม ตียาง กระตุกเชือก ก่อนจะไปถึงขั้นของประลอง ซึ่งเราดูแล้วว่าการซ้อมมวยไทยที่บ้านเราว่าหนักแล้ว มาเจอที่นี่เป็นอะไรที่หนักไม่กันเลยทีเดียว


จบจากการดูซูโม่ เราจะไปเดินทางไปพักที่โรงแรมนาสึซัลวัลเลย์ Oriental Garden เมืองนาสึ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว เป็นเมืองชนบท มีวัฒนธรรมที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้อยู่หลายเรื่อง ทั้งการปั้นหม้อ อาหารพื้นเมืองอร่อยๆ นาสึเป็นเมืองแห่งภูเขาไฟและเป็นเมืองแห่งการแช่น้ำพุร้อน (ออนเซ็น) ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมที่จะมาพักกันที่นี่เพื่อแช่น้ำแร่ออนเซ็นกัน
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศสวยๆด้านหลังของโรงแรม ชื่อว่า ซันการ์เด้น สวีท เป็นสถานที่ที่คนนิยมจะมาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ เพราะบรรยากาศมันมีโรแมนติกเอามากๆ มีต้นไม้ประดับด้วยไฟเรืองแสง รวมไปถึงแสงไฟที่สวยงามอลังการ ตลอดแนวทางเดิน เหมาะแก่การเดินเพิ่มความหวานกับคนที่เรารักอย่างเป็นที่สุด ที่สำคัญบรรยากาศแบบนี้เป็นการฆ่าคนโสดทางอ้อมชัดๆ




สามารถชมคลิปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ที่ : youtube.com/watch?v=M9aqbf0BNF4
: youtube.com/watch?v=eyOOGmXuL_o
: youtube.com/watch?v=5O1qZ23bic0
: youtube.com/watch?v=KmVCaIpQ6l4