แชร์โพสนี้
สัปดาห์นี้เราข้ามมาที่ ‘เบลเยียม’ ประเทศเล็ก ๆ ที่ให้บรรยากาศของความเป็นยุโรปอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่มีอยู่ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นวิหารโบราณ อาคารสำนักงาน และร้านค้าต่าง ๆ จึงทำให้เบลเยียมเป็นหนึ่งในประเทศที่สวยงามและคลาสสิคที่สุดเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะขนาดใหญ่เลยก็ว่า ใครที่รักในศิลปะรับรองว่าที่เบลเยียมจะทำให้ทริปนี้เป็นอีกทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืม
เริ่มต้นที่แรกด้วยสถานที่ที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม อย่าง อะตอมเมียม (Atomium) สิ่งก่อสร้างรูปโครงสร้างอะตอมที่มองผ่าน ๆ ภายนอกอาจไม่รู้ว่ามันคืออาคารที่ภายในเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งส่วนจัดแสดงงานศิลปะ จุดชมวิว และร้านอาหาร นอกจากที่นี่เริ่มแรกยังเคยเป็นสถานที่จัดเวิลด์เอ็กซ์โปอีกด้วย
จัตุรัส กรองด์ ปลาซ (Grand Place) จัตุรัสกลางเมืองที่ถือได้ว่าสวยที่สุดในยุโรปด้วยศิลปะสไตล์นีโอโกธิค และด้วยความสวยงามนี้เองที่ทำให้จัตุรัสแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเมื่อปี ค.ศ. 1998
รูปั้นเด็กน้อยยืนปัสสาวะที่ใครเห็นก็เป็นต้อง อ๋อ! เคยเห็นกันถ้วนหน้า ควาจริงแล้วจุดกำเนิดของหนูน้อยที่เราเห็นกันนี้มาจากเบลเยียมนั่นเอง โดยมีเรื่องเล่าว่าสมัยที่ถูกฝรั่งเศสรุกราน หนูน้อยคนนี้ได้มายืนปัสสาวะเพื่อดับไฟที่ไหม้เมือง เป็นที่มาของหนูน้อยเจ้าของท่าโพสยืนปัสสาวะที่โด่งดัง ใกล้ ๆ รูปปั้นมีพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาเด็กน้อยยืนปัสสาวะที่อยู่ในชุดต่าง ๆ มากมาย ดูน่ารักไปอีกแบบ
มาถึงเบลเยียมแดนขนมหวานทั้งทีก็ต้องแวะชิมสักหน่อย ที่นี่มีร้านขนมให้เห็นมากมายตลอดทางไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตหรือวาฟเฟิลก็สามารถหาซื้อกันได้ตลอด
และแล้วก็ได้เวลาที่รอคอย ร้านอาหาร Chez Leon ที่เปิดมานานถึง 125 ปี ร้านนี้คือจุดมุ่งหมายที่เราจะฝากท้องกัน โดยเมนูที่เลือกมานั้นเป็นเมนูที่พลาดไม่ได้เลยหากใครได้แวะมา
อิ่มแล้วก็มาเดินเที่ยวกันต่อที่ จัตุรัส Grote Markt ชม Cathedral of Our Lady โบสถ์คาทอลิกที่สูงที่สุดในเบลเยียม ที่ไม่ใช่เพียงแค่สูง แต่ความวิจิตรตระการตาก็ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นอีกสถานที่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้
ปิดท้ายวันด้วย สถานีรถไฟแอนเวิร์ป (Antwerp Central Station) สถานีรถไฟสุดคลาสสิคที่ยังใช้งานจริงจนถึงทุกวันนี้
เที่ยวเบลเยียมตามรอยลีลามี