แชร์โพสนี้
กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีการประชุมลับภายในเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนปมเหตุฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพประชุม
ทั้งนี้ดีเอสไอได้ภาพจากกล้องวงจรปิด การเข้าออกอุทยานของกลุ่มคนต้องสงสัยและรถยนต์ของข้าราชการระดับสูงในช่วงเวลาที่นายบิลลี่หายตัวไปแล้วเช่นกัน ภายหลังการประชุม พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าขณะนี้มีการสอบปากคำไปแล้วหลายปากเป็นพยานที่ มีหลายส่วนทั้งเห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อม แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าหลักฐานทั้งหมดจะนำไปสู่การออกหมายเรียกบุคคลใดได้บ้าง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมีแหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อประสานขอสำนวนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวนายบิลลี่
หลังจากนี้ดีเอสไอจะสอบปากคำตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ป.ป.ท. เพื่อนำคำให้การมาประกอบในสำนวนคดี เนื่องจากชุดสืบสวนของตำรวจภูธร ภาค 7 ได้สรุปว่า ไม่เคยมีการปล่อยตัวบิลลี่ เช่นเดียวกับอนุกรรมการไต่สวน ของป.ป.ท. ที่สรุปว่าไม่มีการปล่อยตัวบิลลี่เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะนำมาประกอบสำนวนการเสียชีวิตของนายบิลลี่
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ชุดสืบสวนดีเอสไอยังได้เร่งสืบค้นรถจักรยานยนต์ของบิลลี่ โดยสืบค้นจากจุดสุดท้ายที่พบเห็นว่าอยู่ในตำแหน่งใดของอุทยานฯซึ่งคาดว่ารถถูกขูดลบหมายเลขเครื่องยนต์แล้วนำไปชำแหละ ก่อนทิ้งทำลายซาก
ส่วนกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี นำคลิปเสียงดาบเท่งข่มขู่ลูกน้องมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนนั้น ไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา ทั้งนี้เรายังไม่ได้ประสานอะไรเลย เราทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ