แชร์โพสนี้
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมนายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย กับพวกรวม 4 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาเป็นชาวไต้หวัน 2 คน พร้อมของกลางเคตามีน หรือ ยาเค ชนิดผงสี จำนวนกว่า 50 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกัน ผลิต และ มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยผิดกฎหมาย”
การจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. สืบทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวัน ร่วมกับคนไทย ลักลอบส่งยาเสพติดโดยซุกซ่อนในเครื่องสำอาง หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปประเทศไต้หวัน ผ่านบริษัทขนส่งสินค้า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย อาทิ หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยสืบสวนพิเศษไต้หวัน และหน่วยกำลังในพื้นที่ กระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โดยมีการพบปะกันหลายครั้งและแยกย้ายกัน จนกระทั่งในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17:00 นาฬิกา พบว่า นางสาวศิริพร ศิริไพรวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 4 ขับรถยนต์เก๋งเข้าไปที่โกดังสินค้า อาคาร A ถนนวงแหวนรอบกลาง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และมีการยกกระเป๋าลักษณะมีน้ำหนักลงจากรถและนำเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง โดยมี นายภูสิงห์ ผู้ต้องหาที่ 1 คอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก ต่อมามีชายชาวไต้หวัน ผู้ต้องหาที่ 2 และที่ 3 เข้ามาที่โกดังก่อนเดินออกไป จึงเชื่อว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปเก็บในโกดัง ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นโกดังสินค้าดังกล่าว และพบของกลางยาเคอยู่ภายในโกดัง โดยผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้งสองรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองโดยจะทำการแบ่งบรรจุซุกซ่อนในตู้ลำโพง และนำส่งออกทางบริษัท รับส่งสินค้าไปประเทศไต้หวัน
ส่วนตำรวจอีกชุดได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อซื้อยาเสพติดในครั้งนี้ และจับกุมผู้ต้องที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด มาเก็บไว้ในโกดัง ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป