แชร์โพสนี้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กำหนดวันเลือกตั้งเบื้องต้นเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งอาจทำให้เหลือระยะเวลาประกาศผลการเลือกตั้งเพียง 45 วัน อาจกระทบต่อกระบวนการต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องนี้หาก กกต.เชื่อว่าสามารถทำได้ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ เพราะการประกาศผลคะแนนเป็นเรื่องของ กกต.ว่าจะทำเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ วันที่ 9 พฤษภาคม หรือไม่ รัฐบาลไม่มีอำนาจหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ ได้เคยหารือกับ กกต.ไว้แล้ว ว่าการกำหนดวันประกาศผลเลือกตั้งมีความหมาย เพราะเป็นการนับหนึ่งของการกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดประชุมสภา ภายใน 15 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้กังวลว่าจะทับซ้อนกับงานพระราชพิธี แต่หากกำหนดเป็นวันที่ 24 มีนาคม ก็จะไม่ทับซ้อนกับงานพระราชพิธี
สำหรับแนวทางวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม นายวิษณุ มองว่า กกต.เคยระบุว่าการเลือกตั้งต้องเป็นวันอาทิตย์ เพื่อให้สะดวกทั้ง กกต.และประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ ดังนั้น ในเดือนมีนาคม จะมีวันอาทิตย์ คือ วันที่ 3, 10, 17, 24 และ 31 มีนาคม
โดยวันที่ 3 กับ 10 มีนาคม อาจหาเสียงได้ในระยะสั้น เพราะยังไม่รู้ว่าพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งส.ส.จะประกาศใช้เมื่อไหร่ ส่วนวันที่ 17 มีนาคม ก็จะกระทบต่อการสอบ TCAS ของนักศึกษาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น จึงมองว่าวันที่ 24 มีนาคม เหมาะสมที่สุดเมื่อคำนวนถึงการประกาศใช้ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะประกาศใช้ภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าจะมีปัญหาในเรื่องของกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล หาก กกต.ร่นระยะช่วงนับคะแนนเหลือเพียง 45 วัน แล้วมีผู้สมัครได้ใบเหลือง-ใบแดง นายวิษณุ กล่าวว่า หากเกิดขึ้นกับส.ส.หลายคนในสภาก็อาจมีปัญหา หากรัฐบาลที่อาศัยเสียงสนับสนุนจากส.ส.และพรรคที่ถูกใบเหลือง-ใบแดง จนกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็จะทำให้เกิดปัญหาแน่นอน
ส่วนตัวในฐานะนักกฏหมาย รวมถึง คณะกรรมกรรมร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. เคยชี้แจงในสภาแล้ว ว่ากรอบวันเลือกตั้ง 150 วัน กับกรอบประกาศผลคะแนน 60 วัน ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน แต่หาก กกต.คำนึงถึงระยะปลอดภัย จะนำกรอบทั้ง 2 แบบ มาคิดรวมกันได้ แต่ทั้งนี้ กกต.ต้องบริหารจัดการเลือกตั้งและนับคะแนนให้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าว
ซึ่งเรื่องนี้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เคยชี้แจงมา ถ้อยคำในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็ใช้คำแบบเดียวกันว่า ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่กำหนด การประกาศผลคะแนนก็เริ่มต้นนับหลังจากนั้น ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน ส่วนตัวนายวิษณุเอง เข้าใจอยู่แล้ว แต่อยากให้นายบวรศักดิ์ ไปพูดกับสื่อจะดีกว่า
ทั้งนี้ การประกาศผลเลือกตั้งภายใน 45 วัน จะมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า หากเทียบกับในอดีตก็เป็นระยะเวลาที่พอดี เพียงแต่ครั้งนี้พิเศษ เพราะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว ที่เลือกได้ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต การนับคะแนนจึงอาจมีปัญหาล่าช้า หากถึงวันที่ 9 พฤษภาคม แล้วยังนับคะแนนไม่เสร็จ ส่วนตัวมองว่าก็ไม่มีปัญหาอะไรหากจะนับคะแนนต่อไป แต่ถ้าสงสัย แล้วจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความก็ทำได้ ซึ่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้ทักท้วงเรื่องนี้อยู่คนเดียวมาตลอด แต่ไม่จำเป็นต้องหารือในวันนี้ เพราะจะเป็นการตีตนไปก่อนไข้ เลือกตั้งก็ยังไม่ได้เลือก ก็ไปคิดแล้วว่าจะไม่เสร็จ ไม่ทัน เป็นโมฆะ คงจะใช้จินตนาการมากไป