แชร์โพสนี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2562 พญ.นาตยา มิลส์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ เปิดเผยว่า ทีมแพทย์ผ่าตัดพบผู้ป่วยเพศชาย อายุ 52 ปี มีอาการปวดท้องแน่นท้อง เมื่อตรวจดูพบก้อนเนื้อในช่องท้อง อยู่ในตำแหน่งที่อันตรายพอสมควร เนื่องจากเป็นก้อนเนื้อติดพังผืดโยงติดกันกับอวัยวะข้างเคียงที่สำคัญ ทั้ง ตับ ลำไส้ และกระเพาะอาหาร มีอาการเจ็บท้อง แน่นอึดอัดหายใจไม่สะดวก จึงผ่าตัดพบมีน้ำหนักถึง 5.4 กิโลกรัม
นายแพทย์ณัฐ ทองบัวศิริไล ศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลบึงกาฬ หัวหน้าทีมผ่าตัด กล่าวว่า ทีมงานแพทย์พยาบาลผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งการผ่าตัดในครั้งนี้สำเร็จราบรื่นผ่านไปด้วยดี พบก้อนเนื้อมีขนาด 35×32 เซนติเมตร และมีน้ำหนักถึง 5.4 กิโลกรัม มีพังผืดติดกับกระเพาะอาหาร ลำไส้ และตับ
“การผ่าตัดเนื้องอกที่มีลักษณะนี้ มีพังผืดติดกับอวัยวะข้างเคียงที่สำคัญ ทั้งตับ ลำไส้ และกระเพาะอาหาร จะใช้เวลาในการผ่าตัดที่ยาวนาน ต้องใช้ความระมัดระวังในการผ่าตัด ทั้งเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่มาเลี้ยงอวัยวะ จำเป็นต้องตัดกระเพาะอาหาร และตับออกบางส่วน มีโอกาสที่จะเสียเลือดมากจนทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะช็อคจากการเสียเลือดได้”
แต่เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้รับการบริจาค เครื่องมือจี้และตัดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ของมูลนิธิพุทธสมุนไพรคู่แผ่นดินไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยหลวงปู่ทุย หรือพระอาจารย์ปรีดา ฉนฺทกโร แห่งวัดป่าดานวิเวก หรือวัดดงศรีชมภู จึงทำให้การผ่าตัดทำได้รวดเร็วขึ้น ผู้ป่วยได้รับการดมยาสลบน้อยลง มีความเสี่ยงและเสียเลือดน้อยลง มีความปลอดภัยสูง จึงเป็นผลดีกับผู้ป่วยอย่างมาก