แชร์โพสนี้
ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฉกเพชร น้ำหนัก 10 กะรัต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจับกุมตัวได้ที่ประเทศกัมพูชา ผู้ต้องหายอมรับ ทำมาไม่ต่ำกว่า 7-8 ครั้ง นำเพชรไปขายในบ่อนกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่ขายราคาถูกแล้วนำเงินไปเล่นพนันจนหมด
หลังตำรวจฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุม นายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ขณะต่อคิวจะลงตราประทับ เพื่อจะเดินทางออกนอกประเทศไปยังกัมพูชา ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์
วันนี้ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ 3 จุด คือบริเวณหน้าร้าน ภายในร้าน และจุดหลบหนี ก่อนที่จะควบคุมตัวกลับไปที่ สน. และนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงและนำเพชรไปขายในบ่อนการพนันคาสิโนให้กับคนต่างชาติ จำนวน 550,000 บาท แบ่งให้ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนที่ร่วมก่อเหตุ 100,000 บาท ที่เหลือนำไปเล่นการพนันจนหมด เคยก่อเหตุลักษณะนี้ 7-8 ครั้ง ซึ่งรับโทษไปแล้ว และยังมีคดีลักทรัพย์ ที่อยู่ระหว่างการประกันตัวในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง และมาก่อเหตุซ้ำที่นี่ นอกจากนี้ยังตรวจพบผู้ต้องหามีหมายจับในพื้นที่อื่นๆ อีก 9 หมาย และเปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 5 ครั้ง เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม สำหรับเพชร อยู่ระหว่างการติดตามของเจ้าหน้าที่
เหตุการณ์ฉกเพชรครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากผู้ต้องหาและเพื่อนที่หลบหนีการจับกุม ทำทีซื้อเพชรน้ำหนัก 10 กะรัต มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ของ นายวีกี้ ไวบัส อายุ 44 ปี นายหน้าค้าเพชรชาวอินเดีย ที่มาจ้างคนร้ายเจียรไนเพชรเม็ดดังกล่าว ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 426/2-3 ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา ซึ่งคนร้ายได้ออกอุบายนำเพชรไปส่องกับแสงแดดหน้าร้านก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อนคนร้าย เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกชิงทรัพย์ ในพฤติกรรมที่คล้ายถึงกันและสงสัยว่าอาจจะเป็นผู้ต้องหาคนเดียวกัน ให้มาดูตัวได้ที่ สน.บางรัก