แชร์โพสนี้
กรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวเกือบถูกเพื่อนร่วมงานข่มขืนในรถ หลังเพื่อนคนดังกล่าวอาสาขับรถมาส่งที่บ้าน เมื่อไปแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ โดยอ้างว่ายินยอมขึ้นรถไปกับผู้ก่อเหตุเองนั้น
น้องเอ สาวพีอาร์ ระบุว่า วันเกิดเหตุเลิกงานเมาจริง แต่ทุกครั้งที่ตนเมาแล้วกลับบ้านเองได้ตลอดโดยขึ้นแท็กซี่ และจะวีดิโอคอลบอกเลขทะเบียนแท็กซี่กับแฟนด้วย รู้จักกับผู้ก่อเหตุเพราะเป็นเด็กรับรถของร้าน และผู้ก่อเหตุเคยพาไปส่งที่บ้านหนึ่งครั้ง ตนจึงยอมนั่งติดรถกลับบ้านด้วยในครั้งนี้โดยเขาอาสาพาไปส่งเป็นทางผ่าน แต่ตนไม่ได้อ่อยเขา ระหว่างทางก็มาส่งตามปกติ แต่พอมาถึงแถวหน้าหมู่บ้านตน ผู้ก่อเหตุจึงนำมือของตนไปกระทำอนาจาร และพอถึงหน้าบ้านก็กดเบาะและพยายามลวนลามตน นอกจากนี้ยังมีการชกท้องตนเพื่อให้หยุดร้องด้วย ตนจึงร้องกรี๊ดและขอให้หยุดทำ ผู้ก่อเหตุตัดสินใจปล่อยตนเพราะตนเป็นประจำเดือน ตนไม่ยอมยุติเรื่องเพราะฝ่ายผู้ก่อเหตุพูดปัดความรับผิดชอบ
คุณดั๊ก ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุ ระบุผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนยอมรับว่าพยายามจะข่มขืนจริง ตนเป็นคนขับรถและน้องมีการคุยโทรศัพท์กับชายอีกคนหนึ่งซึ่งน้องเอบอกว่าไม่ใช่แฟน แต่ตนมีอารมณ์เพราะอะไรก็จำไมได้ ตนตั้งใจจะขอโทษน้องตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ตอนเช้านี้แฟนของน้องเอทักเฟซบุ๊กมาขู่ตนว่าเดี๋ยวเจอดีด้วยจึงกลัวและไม่คุยต่อ ขณะนี้ตนอยู่ต่างประเทศ แต่ตนขอให้จบ ไม่อยากให้ดำเนินคดี ที่ตนไปบอกเพื่อนว่าไม่ได้ทำเพราะต้องการเสแสร้ง กลัวว่าตนจะอยู่ไม่ได้ ตนขอโทษ ตนอยากอยู่กับลูกและครอบครัว ตนไม่อยากหนีแล้ว
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ ระบุว่า ผู้เสียหายชงเหล้า แต่ไมได้ขายบริการ และไม่ได้ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย และสถานที่เกิดเหตุก็คือบนรถไม่ใช่โรงแรม โดยแนวโน้มก็ควรจะแจ้งความได้ โดยสามารถเอาผิดได้ว่าพยายามข่มขืน โดยใช้พยานบุคคลคือผู้เสียหายเอง พร้อมรอยฟกช้ำ และเทปรายการในวันนี้ก็อายัดไว้เป็นหลักฐานได้
“คุณผู้ชมเชื่อที่สาวพีอาร์พูดหรือไม่?”
ความคิดเห็นจากผู้ชมรายการ ระบุว่า เชื่อ 77% และ ไม่เชื่อ 23%
—————————————————————————————————
ดีเบต (Debate) โต้เหตุผล ค้นความจริง
“ดีเบต เพราะเราเชื่อว่า เหตุผล และ ความจริง จะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น”