แชร์โพสนี้

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าปล้นเต็นท์รถยนต์มือสอง วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม สายนาทวี-ลำไพล หมู่ 6 บ้านวังโต้ ต.นาทวี อ.นาทวี ขโมยรถกระบะที่จอดอยู่ในเต็นท์จำนวน 6 คัน ขับหลบหนีไปพร้อมกับได้จับตัวเจ้าของเต็นท์รถและพนักงานไปด้วย 4 คน มัดมือ และพาขึ้นรถไปด้วยขับมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ จ.ปัตตานี

ซึ่งหลังเกิดเหตุประมาณ 30 นาที คนร้ายได้ยิงเจ้าของเต็นท์รถพร้อมลูกน้อง ในพื้นที่ อ.เทพา ได้รับบาดเจ็บ บางส่วนได้หนีรอดมาได้ และเข้าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละเเวกดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปรับตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่มีผู้ถูกจ่อยิงเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัสได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ถัดมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงให้หลัง เจ้าหน้าที่เริ่มพบรถที่ถูกปล้นไป ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ต่างๆ

กระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงบริเวณหน้าบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบซากรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค ไม่ทราบป้ายทะเบียน ถูกแรงระเบิดจนได้รับความเสียหายทั้งคัน เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่เหลือจากสามคันที่ถูกปล้นไปจากเต็นท์รถในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 สค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีรายงานว่าคนร้ายที่ปฏิบัติการก่อเหตุในครั้งนี้ได้วางแผนมาเป็นอย่างดีโดยเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงเที่ยงและใช้เส้นทางสายนาทวี-ลำไพล ในการลำเลียงรถยนต์เข้าพื้นที่จ.ปัตตานี เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีการตั้งด่านตรวจของ ตชด.เฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น และกระจายตัวแยกย้ายกันที่บริเวณสี่แยกลำไพล อ.เทพา ซึ่งสามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่จ.ปัตตานีและ จ.ยะลาได้ และหากเป็นไปตามแผนเชื่อว่าคนร้ายได้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะนำไปไปก่อเหตุได้ทันทีทุกคัน

 

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่ารูปแบบของการก่อเหตุมีการวางแผนเป็นขั้นตอนพอสมควร ตั้งแต่เลือกใช้คนที่ไม่มีประวัติเสียเป็นผู้ลงมือ ทำให้เจ้าหน้าที่ลำบากในการตรวจตรา รวมทั้งปล้นรถกระบะที่ จ.ยะลา โดยเลือกเวลากลางวันซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนใช้ชีวิตปกติ แต่เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดฝั่งตรงข้ามเต็นท์รถ จึงมีหลักฐานในการก่อเหตุ

คาดว่าคนร้ายไม่ได้ตั้งใจปล่อยพยานให้รอดชีวิต แล้วกลับมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ฟัง แต่เป็นความผิดพลาดเนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์ก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน สังเกตได้จากความประมาทที่เลือกแยกกันขับรถคนละคัน คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้รับการฝึกในส่วนของคาร์บอมบ์ แต่ไม่ได้ฝึกหากมีเหตุการณ์ปะทะกัน ในขณะที่การทำงานของเจ้าหน้าที่เข้มแข็ง และยังยกระดับตามทันผู้ก่อเหตุเสมอ

 

พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า คนร้าย 6-7 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ เข้ามาภายในเต็นท์รถพร้อมอาวุธครบมือ ก่อนจับทุกคนมัดมือและเท้า นำไปรวมกันไว้ภายในห้องสี่เหลี่ยม ก่อนนำตัวประกันทั้ง 4 คน ขึ้นหลังรถกระบะไป โดยไม่มีคนร้ายนั่งคุมที่ด้านหลังด้วย ตัวประกันจึงตกลงกันว่าหากมีโอกาสหนีต้องรีบพากันหนี ดังนั้นขณะที่คนร้ายจับแยกกัน ตนเองจึงตัดสินใจสะบัดและวิ่งหนี และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี

 

 
—————————————————————————————————

ดีเบต (Debate) โต้เหตุผล ค้นความจริง

“ดีเบต เพราะเราเชื่อว่า เหตุผล และ ความจริง จะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น”

[ พิเศษสุด ] ผู้ชมสามารถร่วมดีเบตระหว่างออกอากาศสดในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ​​​ทางช่อง 3  และช่อง 33 HD เวลา 16.40 – 17.00 น. จันทร์ – ศุกร์ ผ่านทาง 3 ช่องทาง
1. Facebook @bectero.tv
2. YouTube.com @BECTERO.TV
3. Official LINE เรื่องเล่าเช้านี้
ผู้ดำเนินรายการ : ภาษิต อภิญญาวาท
ชมสดพร้อมกันผ่าน Facebook Live และ YouTube Live “BECTERO.TV”
และชมย้อนหลังได้ที่เว็บไซต์  www.bectero.tv