แชร์โพสนี้
ศึก Asian Le Mans Series 2018/19 การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบมาราธอนชิงแชมพ์เอเชีย รายการ Asian Le Mans Series 2018/19 ดวลความมันสนามที่ 3 เมื่อวันที่ 11-12 มกราคม ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กม. ออกสตาร์ทเรศในเวลา 11.45 น. แข่งขันต่อเนื่องกัน 4 ชั่วโมง โดยจะไปจบการแข่งขันในเวลา 15.45 น.
โดยตำแหน่งโพลโพซิชันในเรซนี้ของคลาสส์ แอลเอมพี ทู เป็นของรถแข่งหมายเลข 24 จาก อัลการ์ฟ พโร เรซิง ยอดทีมแข่งสัญชาติโปรตุเกส ขับโดย แฮร์ริสัน นิวอี นักขับจากสหราชอาณาจักร และอันดเรอา พิซซิโตลา ทีมเมทชาวฝรั่งเศส และอาเต เดิร์ค เด ยอง จอมเก๋าชาวดัทช์ ขนาบข้างด้วยจ่าฝูงบนตารางแชมป์เปียนชิพอย่าง ยูไนเทด ออโทสปอร์ท ทีมแข่งอเมริกัน หมายเลข 22 ขับโดย ฟิลลิป แฮนสัน นักขับอังกฤษ และอดีตนักขับรถสูตรหนึ่งอย่าง พอล ดิ เรสตา ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อาร์อาร์ซี บราติสลาวา ทีมแข่งจากสโลวาเกีย หมายเลข 4 ที่ขับโดย ดาร์เรน เบิร์ก นักขับอังกฤษ, มิโร โคนอปกา นักขับชาวสโลวาเกีย และหลิง คัง นักขับจีน
สถานการณ์ของเรซเข้มข้นอย่างมากในช่วงออกสตาร์ท ก่อนที่ พอล ดิ เรสตา อดีตนักขับฟอร์มูลา วัน จะพารถแข่งจาก ยูไนเทด ออโทสปอร์ท ขยับขึ้นเป็นผู้นำเหนือเจ้าของโพลอย่าง อัลการ์ฟ พโร เรซิง ซึ่งในชั่วโมงแรกนั้นขับโดย แฮร์ริสัน นิวอี ได้สำเร็จ หลังผ่านชั่วโมงแรกเจ้าของตำแหน่งผู้นำบนตารางแชมเพียนชิพอย่าง ยูไนเทด ออโทสปอร์ท สามารถรั้งตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่นจากการขับของ พอล ดิ เรสตา ก่อนเข้าพิทเปลี่ยนตัวกับ ฟิลลิป แฮนสัน นักขับดาวรุ่งชาวอังกฤษ ออกมาทำหน้าที่ต่อ
โดยทีมแข่งอเมริกันใช้กลยุทธ์เข้าพิท 4 ครั้ง ตามแผนสลับนักขับ 2 คน คนละ 1 ชั่วโมง และทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติทั้งนักขับ และทีมช่าง ก่อนที่ แฮนสัน จะนำรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก หลังผ่าน 4 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งไปได้ทั้งสิ้น 158 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 719.532 กม. คว้าแชมพ์ 2018/19 Asian Le Mans Series สนามที่ 3 ของฤดูกาลนี้ไปครอง พร้อมกับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของ ยูไนเทด ออโทสปอร์ท ในประเทศไทย และเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้ด้วย พร้อมกับเก็บแต้มขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ประจำปีเข้าไปอีก
ส่วนอันดับ 2 ในสนามนี้ตกเป็นของ อัลการ์ฟ พโร เรซิง ซึ่งประสบปัญหาหลายอย่าง โดยในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้าย พิซซิโตลา ต้องนำรถเข้าพิทอีกครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาจากการปะทะกับรถแข่งในคลาสส์ จีที ขณะที่พยายามไล่แซงเพื่อนอครอบในโค้ง 5 ส่งผลให้การไล่ตามผู้นำเป็นเรื่องยาก และจบเรศในอันดับ 2 เวลาตามหลังแชมพ์ถึง 2 นาที 18.044 วินาที (1 รอบสนาม) ด้านอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 35 จาก เพนิส บาร์เธซ คอมเพทิชัน ทีมแข่งฝรั่งเศสที่ขับโดย 3 นักขับ อย่าง แมทธิว ลาเฮย์, ฌองส์-บาปติสต์ ลาเฮย์ และฟรองซัวส์ เฮร์ยู ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม
ขณะที่แชมป์ในคลาสส์ แอลเอมพี ธรี ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 2 จาก ยูไนเทด ออโทสปอร์ท ทีมแข่งอเมริกันที่ขับโดย เวย์น บอยด์ นักขับชาวอังกฤษ จับคู่กับ การ์เรท กริสต์ นักขับแคนาเดียน และคริส บันคอมบ์ ทีมเมทชาวอังกฤษ โดยทั้ง 3 คนช่วยกันสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พาทีมเข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 151 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 687.654 กม. เหนืออันดับ 2 อย่างรถแข่งหมายเลข 13 จากทีม อินเตอร์ ยูโรโปล คอมเพทิชัน จากโปแลนด์ ขับโดย จาคุบ ชมีโชวสกี และทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง มาร์ทิน ไฮพพ์ ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 79 จาก อีคูรี อีคอสเซ/นีลเซน เรซิง ขับโดย 2 นักขับจากสหราชอาณาจักรอย่าง แอนโธนี เวลส์ และคอลิน โนเบิล ตามหลังแชมป์ 2 รอบสนาม
