แชร์โพสนี้

เอม ไพรินทร์ ปัญจศิลป์ นักกีฬาบีชเทนนิสมืออันดับ 118 ของโลกของไทย ที่จำเป็นต้องหยุดความฝันของตัวเองในการเป็นนักเทนนิสอาชีพ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้เธอจำใจต้องแขวนแร็กเก็ตเร็วกว่าที่คิดไว้

สาววัย 28 ปี จากอุดรธานี เริ่มเล่นกีฬาเทนนิสตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยมีแรงบันดาลใจจากเจ้าบอลภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมือ 9 ของโลกขวัญใจชาวไทย และมีความใฝ่ฝันที่จะเดินทางสายนี้เพื่อเป้าหมายในการเป็นนักกีฬาเทนนิสอาชีพให้ได้

การฝึกซ้อมอย่างหนักและเดินสายไปแข่งขันในรายการต่างๆ จนทำให้เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเทนนิสอาชีพอย่างเต็มตัว และอยู่ในช่วงที่กำลังจะเดินหน้าลงแข่งเพื่อไต่อันดับโลก แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในเส้นทางดังกล่าวก็เกิดขึ้น เมื่อเธอต้องเจอกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หลัง จนต้องหยุดเส้นทางการเป็นนักเทนนิสด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น

ความผิดหวังดังกล่าว แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนต้องรู้สึกท้อ ซึ่งเอม ไพรินทร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เธอก็ทิ้งความผิดหวังนั้น และหันไปเรียนโค้ชเพื่อศึกษาถึงที่มาจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังของเธอ ว่าเกิดจากอะไร จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นโค้ชสอนเทนนิสให้กับเยาวชนรุ่นหลังๆ แทน ซึ่งเธอต้องการแบ่งปันประสบการณ์ที่เคยเจอมาในอดีต และคอยแนะนำให้น้องๆ เยาวชน ได้เติบโตในเส้นทางนนี้อย่างถูกต้อง

เอม ไพรินทร์ เปิดเผยว่า สิ่งที่ทำให้เธอต้องเลิกเล่นเทนนิสก่อนวัยอันควร เนื่องจากตอนนั้นยังขาดความรู้ และความเข้าใจในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา เธอใช้วิธีการฝึกซ้อมอย่างหนักและเดินสายไปแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงร่างกายของตัวเอง นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จและไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตนตั้งใจไว้ในตอนแรกได้ โดย เอม ยอมรับว่า การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการฝึกซ้อม และเรื่องของอาหารการกิน ที่ต่างประเทศนั้นค่อนข้างจะให้ความสำคัญมากๆ ซึ่งที่ไทยยังขาดตรงนี้อยู่

แต่ปัจจุบันเอม ไพรินทร์ ปัญจศิลป์ แม้ว่าเธอจะหันหลังให้กับกีฬาเทนนิสที่ตนเองรักไปแล้ว แต่การได้ลองลงเล่นกีฬาบีชเทนนิส ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการพาเด็กๆ ในอะคาเดมี่ เดินทางไปแข่งขันเทนนิส และเธอได้มีโอกาสสัมผัสกับผืนสายของสนามบีชเทนนิสจนตกหลุมรัก ก่อนจะผันตัวกลายเป็นนักกีฬาบีชเทนนิส และรั้งมืออันดับ 118 ของโลกในตอนนี้ ควบคู่กับการเปิดสถาบันสอนเทนนิสของตัวเอง 2 แห่ง เพื่อสอนให้เยาวชนรุ่นใหม่ให้เล่นเทนนิสอย่างถูกต้อง และในตอนนี้เจ้าตัวยังอยู่ในระหว่างเรียนปริญญาเอก สาขาการจัดการกีฬาปีสุดท้าย และเป็นโค้ชเทนนิสให้กับสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ แอร์เอเชียทีม จ.นนทบุรีอีกด้วย

ส่วนเป้าหมายต่อไปในเส้นทางนักกีฬาบีชเทนนิสอาชีพของสาวจาก จ.อุดรธานีคนนี้ คือ การไต่เต้าทำอันดับโลกของตัวเอง ให้ขึ้นมาติด 1 ใน 50 ของโลกให้ได้ พร้อมกับอยากให้คนหันมาสนใจเกี่ยวกับกีฬาบีชเทนนิส ที่อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนไทยมากสักเท่าไหร่ ให้มาสนใจมากขึ้น ซึ่งตนเชื่อว่า กีฬาบีชเทนนิสนั้น คนไทยสามารถเล่นและขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อปๆ ของโลกได้