แชร์โพสนี้

หากพูดถึงนักมวยสากลสมัครเล่นหญิง ที่สร้างชื่อเสียงให้วงการกำปั้นไทยในช่วง 10 ปีหลังที่ผ่านมา แน่นอนว่าชื่อของเรือตรีหญิง เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม หรือ ‘แสบ’ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม จะเป็นชื่อแรกๆ ที่แฟนกำปั้นบ้านเรานึกถึง ด้วยผลงานการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัยติดต่อกัน , คว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2016 และเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิก ที่ริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ได้สำเร็จอีกด้วย

แต่กว่าเจ้าตัวจะประสบความสำเร็จบนสังเวียนนักสู้ได้นั้น แสบ ต้องเจออุปสรรคมากมายจนเคยหันหลังให้กับวงการมวยมาแล้วครั้งนึง หลังจากที่เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม ก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยแนวหน้าของทีมชาติ จากการกวาดเหรียญรางวัลมาอย่างมากมาย เริ่มจากเหรียญทองซีเกมส์ปี 2007 ที่ จ.นครราชสีมา , คว้า 2 เหรียญทองจากกีฬาเอเชี่ยนอินดอเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม

จากนั้นชื่อเสียง เกียรติยศ เส้นกราฟชีวิตของเธอพุ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เส้นกราฟชีวิตของเธอดิ่งลงอีกครั้ง เมื่อ แสบ ถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ปี 2010 ที่ประเทศจีน ซึ่งด้วยความคาดหวังของแฟนมวยทั้งประเทศ ทำให้เธอต้องแบกรับความกดดันอย่างหนัก สุดท้ายเธอตกรอบรอบแรกเอเชี่ยนส์เกมส์ปีดังกล่าว และในปี 2012 แสบ ได้มีโอกาสไปควอลิฟาย เพื่อชิงโควต้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 แสบเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก่อนแพ้ต่อนักมวยจีนพลาดการคว้าตั๋วไปอย่างน่าเสียดาย เจ้าตัวกลับมาท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้ามาใส่เธออยู่เรื่อยๆ ทั้งอายุมากแล้ว ควรเปิดทางให้นักมวยรุ่นน้อง บวกกับความผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าโควต้าไปลุยโอลิมปิกที่ลอนดอนได้ทำให้ปีนั้นเอง เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม ตัดสินใจหันหลังและเดินออกจากแคมป์ทีมชาติไป ทั้งๆ ที่เป็นกีฬาที่เธอรักที่สุดในชีวิต

แต่หลังจากนั้น เหมือนโชคชะตา กำหนดมาให้ แสบ เปี่ยมวิไล ต้องกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงภายในสมาคมมวยสากลฯ และทางผู้ใหญ่ได้ยื่นโอกาสให้เธอกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ซึ่งแสบก็ตอบแทนด้วยการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ปี 2013 ที่ประเทศเมียนมามาครองได้สำเร็จ เท่านั้นยังไม่พอ แสบ เปี่ยมวิไล ยังเดินหน้าคว้าเหรียญทองรายการชิงแชมป์เอเชียปี 2015 ที่ประเทศจีน ได้อีกด้วย

และการเข้าร่วมแข่งขันรายการ Aiba Women Boxing World Championship 2016 ที่ประเทศคาซัคสถาน รายการชิงแชมป์โลกโดยมีตั๋วโอลิมปิกเป็นเดิมพัน ซึ่งเปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม เอาชนะคู่ต่อสู้และสามารถทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แม้ว่ารอบชิงฯ จะแพ้ให้กับนิโคล่า อาดัมส์ นักมวยเมืองผู้ดีที่มีอันดับโลกเป็นอันดับ 1 ได้เหรียญเงินมาครอง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอเป้นนักมวยหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถค้วาโควต้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ

สำหรับเป้าหมายต่อไปของเปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม คือการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง กับการตั้งเป้าคว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม – 2 กันยายนปีนี้ ซึ่ง แสบ ยังไม่เคยสัมผัสเหรียญเพียงรายการนี้รายการเดียว และหวังแก้ตัวหลังจากที่เคยตกรอบแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศจีน เมื่อปี 2010 ด้วย

นอกจากนี้เจ้าตัวยังปิดท้ายว่า หากมีโอกาสได้เข้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกครั้ง โดยในปี 2020 จะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เจ้าตัวหวังจะใช้ประสบการณ์ที่เคยได้รับมาเมื่อปี 2016 ผลักดันทำผลงานให้ดีกว่าเดิม เพื่อที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและแฟนมวยชาวไทย ให้มีความสุขไปพร้อมๆกับเธอด้วย

สำหรับในอนาคต เมื่อถึงเวลาอันสมควร ‘แสบ’ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม มีความตั้งใจที่อยากจะกลับมาช่วยสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ในการรถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านกำปั้น และเทคนิคต่างๆ ให้กับนักมวยรุ่นน้องต่อไป