แชร์โพสนี้
ประธานาธิบดี เรเจ๊ป เตย์ยิป เออร์โดกัน ของตุรกี กล่าวสุนทรพจน์ หลังครบรอบ 1 ปี การรัฐประหารล้มเหลว ชี้จะลงโทษผู้คนที่คิดโค่นอำนาจอย่างไม่ปราณี ไม่ต่างกับการประหารชีวิตด้วยการการตัดศีรษะ
ในวาระครบรอบ 1 ปี การก่อการรัฐประหารล้มเหลว ของฝ่ายกองทหารที่พยายามก่อรัฐประหาร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 250 ราย และบาดเจ็บอีกเกือบ 2,200 ราย
นายเออร์โดกัน ได้ขึ้นการกล่าวสุนทรพจน์ ต่อผู้คนที่มาร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าว ในนครอิสตันบูล ประกาศจะลงโทษคนทรยศ ที่สมคบกันวางแผนก่อรัฐประหารด้วยการประหารชีวิต และจะเดินหน้าปราบปรามศัตรูต่อไป โดยใช้ด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาดไม่ต่างจากความพยายามในช่วงตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ นายเออร์โดกัน ยังได้กล่าวชื่นชมประชาชนและทหาร ที่ร่วมกันต่อต้านความพยายามก่อรัฐประหาร และกล่าวขอบคุณที่คนกลุ่มนี้ร่วมกันพิทักษ์เกียรติของประเทศ
หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ ได้มีพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน บริเวณเชิงสะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นสถานที่หลัก ที่ฝ่ายขั้วตรงข้ามกับรัฐบาลใช้เป็นสถานที่ก่อเหตุโจมตี โดยรัฐบาลตุรกีได้ประกาศด้วยว่า จากนี้จะกำหนดให้วัน ที่ 15 กรกฎาคม เป็นวันหยุดประจำปีของทางการ
แม้ความล้มเหลวในการก่อรัฐประหารของฝ่ายขั้วตรงข้าม จะทำให้รัฐบาลของนายเออร์โดกัน ได้รับชัยชนะในเกมการเมือง แต่ฝ่ายค้านยังมองว่า รัฐบาลชุดนี้ฉวยโอกาสในการเข้าปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่างจำนวนมาก
โดยตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้สั่งปลดเจ้าหน้าที่ของรัฐ สื่อมวลชน นักวิชาการ รวมทั้งตำรวจ และทหารไปแล้วกว่า 150,000 คน และมีผู้ถูกจับกุมอีกนับ 50,000 คน โดยทั้งหมดล้วนถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า ฝักใฝ่ต่อนายเฟตุลเลาะห์ กูเลน ผู้นำทางศาสนาที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการก่อการรัฐประหารล้มเหลว